พอได้ตั๋วก็เริ่มคุยกันว่าจะไปเที่ยวแบบไหน
แม่ตัดสินใจว่าจะไปเกาะใต้เพราะแลกตั๋วได้กรุงเทพ-ไครสท์เชิร์ช และ แม่โชว์บทความเรื่องรถบ้านของคุณดวงดาว
สุวรรณรังษีให้พ่อและหนูขิงดู ทั้งสองคนอยากไปมาก
โอเคเลยเราจะใช้รถบ้านกัน
แม่ก็กังวลนิดหน่อยว่าจะเตรียมตัวทันไหมเพราะอ่านเจอในหนังสือนำเที่ยวบางเล่มแนะนำว่าควรใช้เวลาเตรียมตัวประมาณหกถึงเจ็ดเดือน
เราจะทันไหมนี่ พ่อแซวว่านึกว่าแม่เตรียมตัวมาตั้งแต่ปี2007 ก็นั่นตั้งนานแล้วนะคะ ยังไงแม่ก็ต้องรีบมาหาข้อมูลก่อนล่ะค่ะ
สิ่งแรกที่ทำคือไปหยิบนิตยสาร Nature Explorer ฉบับเดือนตุลาคม 2007 มาอ่านก่อน
ได้ไอเดียคร่าวๆว่าจะใช้เส้นทางไหน จากนั้นไปหาเล่มอื่นมาเสริม ไปหาหนังสือคู่มือท่องเที่ยวมาอ่านสอง
สามเล่ม คือNew
Zealand กับ Discover New Zealand ของ Lonely Planet
หนังสือของ Eyewitness
Travel และ หนังสือของNational Geographic Traveler อ่านจนเพื่อนสนิทแซวว่าจะไปสอบเป็นไกด์เหรอ แต่ไม่ได้อ่านทุกหน้านะคะ
เลือกเอาเฉพาะที่เกาะใต้ อ่านเสร็จก็เข้าไปดูเว็บไซด์เรื่องที่พัก
เอาให้จำชื่อได้คร่าวๆก็พอ พอไปถึงเมือง(หวังว่า)จะได้นึกชื่อออก แต่ไม่ต้องกังวลนะคะ
ที่นิวซีแลนด์มีศูนย์บริการนักท่องเที่ยวอยู่เกือบทุกเมือง เค้าเรียกว่าi-SITE สอบถามได้ตลอดเส้นทางค่ะ มีเว็บไซด์ของการท่องเที่ยวนิวซีแลนด์ให้อ่านเพลินๆด้วยนะคะ
แถมสมัยนี้ก็มีเว็บไซด์ของTrip Advisor ที่มีรีวิวของที่เที่ยวและที่พักต่างๆทำให้ชีวิตง่ายขึ้นอีกเยอะ
แต่เว็บไซด์ที่ดีมากๆคือเว็บไซด์ของ DOC (Department of Conservation)รายละเอียดเยอะดีค่ะ
ตอนทีอ่านไปก็พยายามทดลองทำแบบที่มีคำแนะนำในนิตยสารหลายๆเล่มและ
แต่ผลปรากฏว่าเราทำเวลาอย่างนั้นไม่ได้นะ เลยมานั่งคิดคำนวณระยะทางกับเวลาใหม่
ได้ผลออกมาว่าถ้าทำอย่างตามอย่างที่แนะนำไว้ เราก็จะแวะได้เมืองละนิดละหน่อยเอง
แล้วก็ต้องเร่งขับรถต่อ ประมาณว่าวันนึงขับรถไม่ต่ำก300-400กิโลเมตร
บางช่วงอาจถึง600กิโลเมตร ซึ่งแบบนี้ไม่ใช่สไตล์ของเราค่ะ
แม่คิดว่าเรามาเที่ยวก็ควรจะมีความสุขกับการเที่ยวชมที่ต่างๆและไม่ชอบที่จะมาห่วงกังวลว่าต้องทำให้ได้อย่างหมายกำหนดการ
ยิ่งเราสามคนเป็นพวกชอบแวะตามรายทางด้วย แถมเดินช้าอีกต่างหาก พ่อเลยบอกว่าเราขับเที่ยวไปเรื่อยๆก็แล้วกัน
และแค่วางแผนคร่าวๆว่าจะใช้เส้นทางไหนไปเมืองอะไรบ้างแค่นั้นก็พอ เพราะขี้เกียจที่จะทำเวลาให้ได้ตามเส้นทางที่แนะนำ
เลยทำให้ตัดสินใจว่าไปหาที่พักและจัดการเรื่องทัวร์ต่างๆเอาระหว่างทางดีกว่า
เพราะถ้าเผื่อทำเวลาไม่ได้จะได้ไม่ต้องมายุ่งยากตอนยกเลิกหรือเลื่อน
เพราะที่พักบางแห่งจะมีpenaltyในการเลื่อนหรือยกเลิก แถมสมัยนี้การติดต่อสื่อสารก็สะดวกสะบาย
ไปถึงนิวซีแลนด์ก็ซื้อซิมโทรศัพท์อันนึงกับบัตรเติมเงินก็สบายแล้ว
และเกือบทุกฮอลิเดย์พาร์คก็น่าจะมีอินเทอร์เน็ตให้ใช้ค่ะ ลืมบอกไปนิดนะคะว่า
ถ้าจองไปก่อนจะประหยัดได้มากกว่า แต่เวลาไปi-SITE ห้ามลืมมองหาคูปองส่วนลดและถามถึงโปรโมชั่นพิเศษนะคะ
ช่วงที่แม่อ่านเรื่องที่เที่ยว
ก็ให้พ่อค้นหาไปด้วยนะคะว่าจะใช้รถบ้านเจ้าไหนดี
มีหลายเจ้ามากๆ สรุปได้ว่าถ้าเป็นรถใหม่เคยใช้งานมาน้อยกว่าสองปีจะแพงกว่า และทุกยี่ห้อราคาไม่ต่างกันมาก
เวลาเข้าไปใน เว็บไซด์ของรถบ้านทั้งหลายก็ขอให้เค้าอีเมลล์เสนอราคามาให้เลยนะคะ
จะได้เปรียบเทียบง่ายๆ พ่อเลือกยี่ห้อ Alpha แบบ
berth 2+1 มีห้องน้ำในตัว
มีที่นั่งและเข็มขัดนิรภัยให้หนูขิงด้วย เป็นกฎหมายของนิวซีแลนด์ที่ทุกคนในรถต้องคาดเข็มขัดนิรภัยนะคะ ตอนแรกก็งงว่าเค้าจะมีเครื่องใช้อะไรให้บ้าง
แต่ก็พยายามอีเมลล์ไปถามที่ศุนย์รถ เค้าก็แสนจะใจดีเขียนมาตอบเราจนเข้าใจ เราเเลือกรถที่อายุประมาณ 5
ปี จะได้ไม่แพงมากค่ะ แต่เราเลือกประกันแบบเต็มที่เพราะขี้เกียจมากังวลว่าจะขับเฉี่ยวชนอะไร
หรือเกิดอุบัติเหตุ แพงกว่าหน่อยแต่ก็อุ่นใจค่ะ เราลองคำนวณค่าใช้จ่ายเปรียบเทียบดูระหว่างรถบ้านกับรถธรรมดา
ค่าใช้จ่ายไม่ต่างกันมากนัก แต่ที่สำคัญคือ เราไม่ต้องเร่งรีบ ไม่ต้องเก็บกระเป๋าตอนเช้า
และถ้าไม่อยากวางแผนการเดินทางมากนัก
แทบทุกเมืองจะมีฮอลิเดย์พาร์คหรือที่จอดรถบ้านให้นะคะ
แม่มัวแต่ตื่นเต้นหาที่เที่ยวหารถ
เกือบลืมขอวีซ่า นึกได้ก็รีบเข้า เว็บไซด์ของสถานทูตนิวซีแลนด์ ดูว่าขั้นตอนเป็นยังไง
ดาวน์โหลดแบบฟอร์มการขอวีซ่า และ คำแนะนำในการกรอกเอสารและเอกสารที่ต้องใช้ รวบรวมเอกสารได้แล้ว ก็ไปขอกันเลย ที่สำนักวีซ่าของสถานทูตที่ตึกเอ็มไทย
ออลซีซันเพลส ที่นี่บริการรวดเร็วทันใจ
ไปถึงนั่งดูสารคดีท่องเที่ยวยังไม่ทันจบคุณเจ้าหน้าที่ก็เรียกแล้วยื่นเอกสารให้ เค้าก็ตรวจดู ถามนิดหน่อยว่าไปเที่ยวเหรอครับ
และไปกี่วัน อ้อลืมเอาสำเนาทะเบียนสมรสไปทางคุณเจ้าหน้าที่บอกว่าไม่เป็นไรครับ อีเมลล์กลับมาให้ผมก็ได้
และใช้หมายเลขอ้างอิงเบอร์นี้ แล้วก็ยื่นเอกสารกลับมาบอกให้มารับได้อีกประมาณหนึ่งอาทิตย์
แทบไม่น่าเชื่อว่าเค้าบริการรวดเร็วมากใช้เวลาที่สำนักงาน ไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง
เราได้ไปตอนเดือนเมษายน
หนังสือLonely
Planetเขียนไว้ว่าเป็นช่วงที่เรียกว่า “Shoulder period” คนจะน้อยกว่าช่วงหน้าร้อน(ธันวาคม
ถึง กุมภาพันธ์)
ในหนังสือเค้าบอกว่าช่วงหน้าร้อนทุกที่จะแน่นมาก”pack to the gill”เต็มไปด้วยด้วยนักท่องเที่ยว
ทั้งที่เป็นคนนิวซีแลนด์เองและนักท่องเที่ยวต่างชาติ แม่หวังว่ายังไม่หนาวเกินไปที่จะพาหนูขิงไปเดินชมธรรมชาตินะคะ
ก่อนที่จะไปเที่ยวพอดีได้มีศูนย์สิริกิตต์มีงานท่องเทียว
เลยถือโอกาสไปเดินหาข้อมูลเพิ่มเติมและหาที่เที่ยวเพิ่มเติมด้วย ลองเดินเข้าไปในบูธของการท่องเที่ยวนิวซีแลนด์เผื่อว่าจะได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์
แล้วก็ไม่ผิดหวังค่ะ เพราะไปคุยกับสาวๆที่มาแนะนำให้ไปWhale Watching Tour ที่เมืองไคคัวรา(Kaikoura) เค้าบอกว่า
เราควรต้องจอง ฮอลิเดย์พาร์ค (Holiday Park) ตอนช่วงวันหยุดอีสเตอร์(Easter)ของเค้า
เพราะที่นิวซีแลนด์เป็นช่วงวันหยุดยาว
ต้องขอบคุณเค้าอย่างมากเลย ช่วงอีสเตอร์เป็นช่วงที่เรากะจะไปเมือง โออามารุ
(Oamaru) เราเลยเข้าเน็ตเไปหาดูที่พัก ปรากฎว่า ฮอลิเดย์พาร์คที่อยู่ในเครือTop 10นี่เต็มหมดเลย
เลยส่ง อีเมลล์ไปถามเค้าว่าพอมีที่ให้เราบ้างไหม ทางเจ้าหน้าที่ ก็ดีมากๆตอบกลับมาว่า
ต้องขอโทษมากๆนะคะเต็มจริงๆ ขอให้ยูลองจองที่ Waitaki Waters Holiday Parkดูนะ
อยู่ห่างจากโออามารุขับรถไม่เกิน 20นาที เราเลยลองจองที่Waitaki Watersไปหนึ่งคืน
และอีกหนึ่งคืนกะว่าจะไปหาเอาข้างหน้า
หนูขิงสงสัยค่ะว่าฮอลิเดย์พาร์คคืออะไร
เค้าแปลตามตัวว่าสวนสาธารณะสำหรับคนมาพักในวันหยุด ก็เกือบใช่นะคะ
แม่เลยอ่านจากนิตยสารให้ฟังว่า ก็เป็นที่พักแบบที่ให้นำรถบ้านไปจอดค้างคืนได้ค่ะ
เค้าก็จะมีบริการห้องน้ำรวม ครัว ห้องอาหาร สนามเด็กเล่นให้
เราสามารถเลือกได้ว่าจะเป็นมีไฟฟ้า( Powered site) หรือ ไม่มีไฟฟ้า(non-Powered site )ถ้าเป็นแบบ
มีไฟฟ้าพอไปถึงก็ดึงสายไฟจากรถเราไปต่อที่ปลั๊กที่เค้ามีให้ที่ช่องจอดรถของเราได้เลย
เสร็จแล้วก็ต่อสายน้ำด้วยนะคะ ถ้าเป็นแบบไม่ มีไฟฟ้าก็ต่อสายน้ำอย่างเดียว ฮอลิเดย์พาร์คส่วนใหญ่จะให้บริการหลายแบบ
มีทั้งที่กางเต๊นท์,
Self-contained motel ( ห้องพักแบบมีห้องน้ำและมีครัวส่วนตัว )
หรือ มีแต่ห้องนอนให้แล้วใช้ครัวกับห้องน้ำรวม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น