วันที่สิบสอง
เช้าวันนี้อากาศดีอีกแล้ว หนูขิงเลยไปกระโดดtrambolineเล่นค่ะ แต่เราต้องไปแล้วเลยเล่นได้แป๊ปเดียว
เราขับออกจากGlentanner Holiday Park และหันไปร่ำลาMt. cook แล้วก็รีบเผ่นเพราะวันนี้อาจจะต้องแวะหลายที่และขับรถไกล
วันนี้ว่าจะแวะไปทะเลสาบเทคาโป( Lake Tekapo) เราใช้ SH80ขับ เลาะทะเลสาบปูคากิ(Pukaki Lake) มาเรื่อยๆ พอมาถึง SH8 ก็ขับไปทาง ที่บอกว่าTekapo ขับมาสักพักเจอจุดให้ถ่ายรูปชมวิวริมทาง รถทัวร์จอดเต็มไปหมด พ่ออยากไปแวะดู Mount Cook Alpine Salmon Farm ปรากฏว่าฟาร์มไม่เปิดให้คนเข้าชม มีแต่ส่วนของร้านขายปลา แม่บอกว่า มีคูปองลดราคาอยู่ด้วย เราซื้อปลาดิบ มาไว้ทานเล่น และซื้อปลาสดมาอีกหนึ่งชิ้น และเดินดูกระชังเลี้ยงปลาที่ในคลองริมถนน มีป้ายเขียนว่า Tekapo Hydro canal พ่อเลยบอกว่าในแผนที่มีโรงงานผลิตไฟฟ้าพลังน้ำอยู่ใกล้ๆ เราอ่านเอาจากโบรชัวร์ที่เขียนไว้ว่า ฟาร์มนี้อยู่ทีระดับ600ฟุตเหนือจากน้ำทะเล เลยทำให้เป็นการเลี้ยงปลาแซลมอนที่สูงที่สุดในโลก และยังบอกว่าน้ำที่ในคลองนี้เป็นน้ำที่สะอาดมากเพราะละลายมาจากธารน้ำแข็ง ปลาเลยมีคุณภาพดี ใกล้กับฟาร์มปลาแซลมอนมีคนมานั่งตกปลาริมคลองกันเยอะเลยค่ะ
ระหว่างทางไปทะเลสาบเทคาโป มีป้ายของ Mt John Observatory หนูขิงอยากแวะไปดู เราเลยขับไปกัน ตอนนี้เป็นตอนกลางวันเลยไม่มีทัวร์ดูดาว ข้างบนนี้เราสามารถชมวิวของเมือง เทคาโป และหุบเขาโดยรอบได้ มี Astro café แต่คนเยอะมาก เราเลยจะไปทานกลางวันในเมืองกัน
ขับรถแค่ครึ่งชั่วโมงก็ถึงแล้ว ระหว่างทางเข้าเมืองเห็นมีคนมาขี่จักรยานกันเยอะมาก ขับไปอีกหน่อยเลยเข้าใจ เพราะมีป้ายเขียนว่า Richmond Trail เป็นเส้นทางของจักรยานเสือภูเขา เรามาถึง ที่ lake Tekapo Village center มีรถจอดเยอะมากค่ะ เจอร้าน cafe เล็กๆเลยไปสั่งพาย กับสลัดมาแบ่งกัน จำชื่อร้านไม่ได้จริงๆค่ะ ทานอาหารเสร็จก็ไปเดินดูรอบทะเลสาบมีร้านอาหารและร้านขายของตั้งอยู่โดยรอบ ทะเลสาบเทคาโปนี้ผืนน้ำสีสวยมาก เป็นสีเขียวมรกตเลยค่ะ แต่หนูขิงบอกว่า เหมือน Turquoise blue มากกว่านะแม่ น้ำ สีเขียวอมฟ้านี้เกิดจากแร่ธาตุผสมกับน้ำที่ละลายมาจากธารน้ำแข็ง
เราขับออกจากGlentanner Holiday Park และหันไปร่ำลาMt. cook แล้วก็รีบเผ่นเพราะวันนี้อาจจะต้องแวะหลายที่และขับรถไกล
วันนี้ว่าจะแวะไปทะเลสาบเทคาโป( Lake Tekapo) เราใช้ SH80ขับ เลาะทะเลสาบปูคากิ(Pukaki Lake) มาเรื่อยๆ พอมาถึง SH8 ก็ขับไปทาง ที่บอกว่าTekapo ขับมาสักพักเจอจุดให้ถ่ายรูปชมวิวริมทาง รถทัวร์จอดเต็มไปหมด พ่ออยากไปแวะดู Mount Cook Alpine Salmon Farm ปรากฏว่าฟาร์มไม่เปิดให้คนเข้าชม มีแต่ส่วนของร้านขายปลา แม่บอกว่า มีคูปองลดราคาอยู่ด้วย เราซื้อปลาดิบ มาไว้ทานเล่น และซื้อปลาสดมาอีกหนึ่งชิ้น และเดินดูกระชังเลี้ยงปลาที่ในคลองริมถนน มีป้ายเขียนว่า Tekapo Hydro canal พ่อเลยบอกว่าในแผนที่มีโรงงานผลิตไฟฟ้าพลังน้ำอยู่ใกล้ๆ เราอ่านเอาจากโบรชัวร์ที่เขียนไว้ว่า ฟาร์มนี้อยู่ทีระดับ600ฟุตเหนือจากน้ำทะเล เลยทำให้เป็นการเลี้ยงปลาแซลมอนที่สูงที่สุดในโลก และยังบอกว่าน้ำที่ในคลองนี้เป็นน้ำที่สะอาดมากเพราะละลายมาจากธารน้ำแข็ง ปลาเลยมีคุณภาพดี ใกล้กับฟาร์มปลาแซลมอนมีคนมานั่งตกปลาริมคลองกันเยอะเลยค่ะ
ระหว่างทางไปทะเลสาบเทคาโป มีป้ายของ Mt John Observatory หนูขิงอยากแวะไปดู เราเลยขับไปกัน ตอนนี้เป็นตอนกลางวันเลยไม่มีทัวร์ดูดาว ข้างบนนี้เราสามารถชมวิวของเมือง เทคาโป และหุบเขาโดยรอบได้ มี Astro café แต่คนเยอะมาก เราเลยจะไปทานกลางวันในเมืองกัน
ขับรถแค่ครึ่งชั่วโมงก็ถึงแล้ว ระหว่างทางเข้าเมืองเห็นมีคนมาขี่จักรยานกันเยอะมาก ขับไปอีกหน่อยเลยเข้าใจ เพราะมีป้ายเขียนว่า Richmond Trail เป็นเส้นทางของจักรยานเสือภูเขา เรามาถึง ที่ lake Tekapo Village center มีรถจอดเยอะมากค่ะ เจอร้าน cafe เล็กๆเลยไปสั่งพาย กับสลัดมาแบ่งกัน จำชื่อร้านไม่ได้จริงๆค่ะ ทานอาหารเสร็จก็ไปเดินดูรอบทะเลสาบมีร้านอาหารและร้านขายของตั้งอยู่โดยรอบ ทะเลสาบเทคาโปนี้ผืนน้ำสีสวยมาก เป็นสีเขียวมรกตเลยค่ะ แต่หนูขิงบอกว่า เหมือน Turquoise blue มากกว่านะแม่ น้ำ สีเขียวอมฟ้านี้เกิดจากแร่ธาตุผสมกับน้ำที่ละลายมาจากธารน้ำแข็ง
เราเดินเล่นมาเรื่อยๆจนถึง
โบสถ์หลังเล็กๆ ที่สร้างขึ้นมาจากหิน ชื่อว่า Church of Good Shepherd โบสถ์หลังแรกในแถบนี้ ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ถึงผู้บุกเบิกดินแดนในแถบที่ราบแมคเคนซี่
(Mackenzie
Basin) ที่หน้าต่างของโบสถ์ถูกออกแบบมาเพื่อให้เราได้ซาบซึ้งและประทับใจกับความสวยงามของที่นี่ที่พระเจ้าได้สร้างขึ้นมา
“To encompass
the beauty of God’s creation”
ใกล้ๆกัน ก็มีอนุสาวรีย์ของสุนัขเลี้ยงแกะที่สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงความดีของสุนัขเลี้ยงแกะ Collie Dog หนูขิงอยากวิ่งเล่นริมทะเลสาบอีกหน่อย พ่อเลยไปขับรถมารอ ออกเดินทางกันต่อ พ่อกับแม่ปรึกษากันว่าจะนอนที่ไหนดี เพราะถ้าจะไป ไครชท์เชิร์ช คงจะไม่มีอะไรทำมากนอกจากซื้อของ เพราะผลกระทบจากแผ่นดินไหว และสถานที่ท่องเที่ยวส่วนใหญ่อยู่ใน Red Zone
ใกล้ๆกัน ก็มีอนุสาวรีย์ของสุนัขเลี้ยงแกะที่สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงความดีของสุนัขเลี้ยงแกะ Collie Dog หนูขิงอยากวิ่งเล่นริมทะเลสาบอีกหน่อย พ่อเลยไปขับรถมารอ ออกเดินทางกันต่อ พ่อกับแม่ปรึกษากันว่าจะนอนที่ไหนดี เพราะถ้าจะไป ไครชท์เชิร์ช คงจะไม่มีอะไรทำมากนอกจากซื้อของ เพราะผลกระทบจากแผ่นดินไหว และสถานที่ท่องเที่ยวส่วนใหญ่อยู่ใน Red Zone
ถ้าไป ไคคัวรา
( Kaikoura) อาจจะไกลไปนิดนึง
เราเลยเลือกไป อะคารัว(Akaroa) จากเมือง เทคาโปใช้ SH8 (Fairlie-Tekapo Road) จนมาถึง
เมือง Fairlie ก็เปลี่ยนเส้นทางไปใช้
SH79 (Geraldine-Fairlie Road) จากนั้นก็ต่อด้วย
SH1 ขับขึ้นเหนือไปเรื่อยๆ
พอถึงใกล้ ไครชท์เชิร์ช ก็ตามป้าย อะคารัว ไปเลยค่ะ ระยะทางค่อนข้างไกลตั้ง 280
กิโล เลยบอกพ่อว่าเราน่าจะค้างคืนที่เจอรัลดีน( Geraldine) นะ พ่อคิดว่าน่าจะไหว แต่ยังไงเราก็หยุดพักเดินเล่นที่ โฟร์พีคพลาซา(Four Peaks Plaza) ใกล้ๆกับพิพิธภัณฑ์ของเมืองเจอรัลดีน
มีร้านขายเบเกอรี่Berry Barn Bakery แม่ซื้อพายมาลองหนี่งชิ้นอร่อยดีค่ะ และร้านขายแยมชื่อฺ Barker’s of Geraldine ที่เป็นร้านเก่าแก่ของเมืองตั้งขึ้นเมื่อปีค.ศ.1969 และใช้ผลิตผลจากฟาร์มของที่ร้าน พนักงานที่นี่บอกเราว่าให้ชิมก่อนชอบใจค่อยซื้อ แม่กับพ่อเลยลองชิมแยมรสต่างๆกันสนุกไปเลยค่ะ ร้านนี้มีน้ำเชื่อมรสผลไม้ให้ลองด้วยค่ะ หนูขิงไม่ยอมชิม เลย จะขอไปที่ ร้านขายชีสชื่อ Talbot Forest Cheeseอย่างเดียว ร้านนี้เป็นร้านเล็กๆ มีชีสไม่กี่ชนิด ทำแบบอุตสาหกรรมในครอบครัวและใช้วัตถุดิบในท้องถิ่นค่ะ พนักงานตัดชีสมาให้ลองชิ้นใหญ่มากค่ะ หนูเลยสนุกกับการชิมชีสค่ะ ที่นี่ขายอุปกรณ์พวกมีดตัดชีส และเครื่องขูดชีส แม่เลยอุดหนุนเคื่องขูดชีสด้วยมือมาหนึ่งอัน จากนั้นก็ไปต่อ หยุดอีกทีที่เมืองแอชเบอร์ตัน( Ashburton) เพื่อแวะที่ นิวเวิรลด์ หลังจากนั้นก็ขับยาวเข้าไปที่ อะคารัว เลยค่ะ ถึงเกือบสองทุ่ม แม่ดูในแผนที่ เห็นมี Akaroa Top 10 Holiday Park อยู่ด้วย เราเลยแวะถามว่ามีที่พักไหมและ ขอโทษ Park Host ว่ามาดึกไปหน่อย เค้ารีบบอกว่ามีที่ว่างและชี้ให้ดูว่าที่จอดอยู่ที่ไหน แนะนำส่วนต่างๆของ ฮอลิเดย์พาร์คให้เราทราบตามธรรมเนียม เรารีบไปจอดและทำกับข้าว วันนี้ทำ ข้าวผัด กับ ปลาแซลมอนย่าง เพราะที่ครัวมี เตาย่าง BBQ ให้ใช้ด้วยค่ะ
มีร้านขายเบเกอรี่Berry Barn Bakery แม่ซื้อพายมาลองหนี่งชิ้นอร่อยดีค่ะ และร้านขายแยมชื่อฺ Barker’s of Geraldine ที่เป็นร้านเก่าแก่ของเมืองตั้งขึ้นเมื่อปีค.ศ.1969 และใช้ผลิตผลจากฟาร์มของที่ร้าน พนักงานที่นี่บอกเราว่าให้ชิมก่อนชอบใจค่อยซื้อ แม่กับพ่อเลยลองชิมแยมรสต่างๆกันสนุกไปเลยค่ะ ร้านนี้มีน้ำเชื่อมรสผลไม้ให้ลองด้วยค่ะ หนูขิงไม่ยอมชิม เลย จะขอไปที่ ร้านขายชีสชื่อ Talbot Forest Cheeseอย่างเดียว ร้านนี้เป็นร้านเล็กๆ มีชีสไม่กี่ชนิด ทำแบบอุตสาหกรรมในครอบครัวและใช้วัตถุดิบในท้องถิ่นค่ะ พนักงานตัดชีสมาให้ลองชิ้นใหญ่มากค่ะ หนูเลยสนุกกับการชิมชีสค่ะ ที่นี่ขายอุปกรณ์พวกมีดตัดชีส และเครื่องขูดชีส แม่เลยอุดหนุนเคื่องขูดชีสด้วยมือมาหนึ่งอัน จากนั้นก็ไปต่อ หยุดอีกทีที่เมืองแอชเบอร์ตัน( Ashburton) เพื่อแวะที่ นิวเวิรลด์ หลังจากนั้นก็ขับยาวเข้าไปที่ อะคารัว เลยค่ะ ถึงเกือบสองทุ่ม แม่ดูในแผนที่ เห็นมี Akaroa Top 10 Holiday Park อยู่ด้วย เราเลยแวะถามว่ามีที่พักไหมและ ขอโทษ Park Host ว่ามาดึกไปหน่อย เค้ารีบบอกว่ามีที่ว่างและชี้ให้ดูว่าที่จอดอยู่ที่ไหน แนะนำส่วนต่างๆของ ฮอลิเดย์พาร์คให้เราทราบตามธรรมเนียม เรารีบไปจอดและทำกับข้าว วันนี้ทำ ข้าวผัด กับ ปลาแซลมอนย่าง เพราะที่ครัวมี เตาย่าง BBQ ให้ใช้ด้วยค่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น