วันอังคารที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

ชิมไวน์ที่ Cloudy Bay กับ Allan Scott ต่อด้วย เดินเล่นที่picton

ตื่นเช้ามาวันนี้อากาศดี เราจะออกเดินทางจากKaikoura เรายังคงขับขึ้นเหนือใช้เส้นทางState Highway 1อยู่นะคะ วันนี้เป็นวันขับรถชมวิวไร่องุ่นโดยเฉพาะค่า เพราะเลยจากKaikouraไปคือแถวที่เค้าเรียกว่า Marlborough region ซึ่งดังมากในเรื่องของไวน์ ถ้าเรามีเวลา คงไปแวะที่ Cloudy bay แต่พ่ออยากลองไปแวะตามพวก “Little boutique wineries” ด้วยค่ะ วันนี้ยังไม่ได้จองที่พักเลย แต่แม่เล็งเอาไว้ว่า เราน่าจะไปถึงpictonตอนบ่ายๆ แล้วค่อยไปหาที่พักที่นั่น ยังไงน่าจะมีอยู่แล้ว เพราะpictonเป็น เมืองที่เป็นท่าเรือFerryที่จะข้ามระหว่างเกาะเหนือไปยังเมือง Wellington และ เกาะใต้  แต่เที่ยวนี้เรายังไม่ข้ามไปเกาะเหนือนะคะ แต่ถ้าใครอยากใช้บริการเรือ ferry มีอยู่ 2เจ้าค่ะ Bluebridge Ferries  http://www.bluebridge.co.nz/ และ Interislander https://www.interislander.co.nz/
                แต่ก่อนออกเดินทาง หนูขิงขอไปแวะซื้อเปลือกหอย paua (rainbow abalone หรือ หอยเป๋าฮี้อ) บอกว่าจะเอาไปเป็นที่ระลึก ร้านขายของที่ระลึกในKaikoura มีอยู่หลายร้านทีเดียวค่ะ มีร้านขายอุปกรณ์กีฬาทางน้ำอยู่ใ กล้ๆกับร้านขายของที่ระลึกด้วยค่ะ พ่อเลยขอแวะหน่อย   
เปลือหอยPaua ที่หนูขิงอยากได้
ได้ของแล้วมีความสุข
 พอหนูขิงได้ของแล้ว พ่อดันมีความคิดขึ้นมาว่า เพราะวันนี้อากาศดี แดดออก เราน่าจะลองไปถามที่ whale watch ดูว่าเค้ามีที่ให้เราไหม ว่าแล้วเราสามคนก็รีบไปทันที แต่น่าเสียดาย คุณป้าบอกว่าเรือเที่ยวเช้าออกไปแล้ว เหลือแต่เที่ยวบ่าย ซึ่งก็เต็ม นอกจากเราจะรอstand byว่ามีใครถอนตัวบ้าง แต่ถ้าทางคงยาก เพราะอากาศดีจริงๆ ได้แต่ปลอบใจหนูขิง แล้วตั้งGPS ไปยัง เมือง Blenheim (อ่านว่า Ble – numนะคะ)
ขับกินลมชมวิวมาเรื่อยๆ ผ่านป้ายแว๊บๆ เขียนว่าLake Grassmere Saltworks ลองแวะดูหน่อยไหม 
แม่เลยหาข้อมูลจากinternet ได้ความคร่าวๆว่า เค้าทำเกลือโดยการปั๊มน้ำทะเลจากมหาสมุทรแปซิฟิค เข้ามาที่lake Grassmere แล้วลมอุ่นๆจากทางตะวันตกเฉียงเหนือก็ทำให้น้ำทะเลระเหย กลายเป็นเกลือ เอาเข้าไปบดแล้วก็รวบรมวมมากองไว้เป็นภูเขาเกลือ ก่อนที่จะนำไปผ่านกระบวนการทำความสะอาดและบรรจุ  ขับเข้าซอยมาสักพักก้เห็นเลยค่ะ ภูเขาเกลือ สีไม่ค่อยขาวมากนัก แต่ก็สูงพอสมควร เค้ามีรั้วกั้นอยู่ เราเลยได้แต่เกาะรั้วดู 
ภูเขาเกลือ

หนูขิงกับพ่อก็เลยเดินสำรวจว่ามีสัตว์อะไรบ้าง จริงๆพ่ออยากยืดเส้นยืดสายค่ะ 
พ่อและหนูขิง
     จากนั้นก็ขับอีกเกือบสี่สิบห้านาทีเราก็มาถึงBlenheim I-SITEค่ะ แม่ถามหนูขิงว่าหิวไหม เพราะเที่ยงแล้ว เค้าบอกไม่หิว เราเลยไปแวะหยิบ The Marlborough Wine Trail map ก่อน มีข้อมูลแปะเอาไว้ว่าแถวนี้ ผลิตไวน์ได้ถึงหนึ่งในสาม ของผลผลิตรวมของนิวซีแลนด์ เลยนะคะ เค้ายังบอกอีกว่า เพราะมีแดดดี และอากาศเย็ยสบายในตอนกลางคืน เลยเป็น”perfect microclimate” สำหรับการปลูกองุ่นค่ะ  พ่ออยากจะไปดู The famous CLOUDY BAY แต่แม่บอกว่าขับไปเรื่อยๆก่อน เพราะดูจากแผนที่แล้วมีเพียบ ขับไปซักพัก ก็เจอ Cloudy Bay ระหว่างพ่อไปดูว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง แม่เลยจับหนูขิงมาถ่ายรูปเล่นค่ะ จากนั้น ก็ขับต่อไป เจอAllan Scott พ่อเลยขอแวะดูอีก Cellar Door host กล่อมให้ลองอีก แต่พ่อบอกว่าต้องขับรถอีกไกล เลยได้แต่มองๆ ที่นี่มีร้านอาหารด้วยแต่คนแน่นมากต้องรอคิวนานเลยค่ะ
หน้า Cellar door
 แถมหนูขิงก็หิวแล้ว เราเลยตัดสินใจไปกินกลางวันที่ The Vines Village เป็นshopping mall เล็กๆค่ะ มีร้านอาหาแบบ café แล้วก็ร้านพวกที่เป็นของแบบartisan อยู่นิดหน่อยค่ะ มีโต๊ะกลางแจ้งให้นั่งทานอาหาร http://www.thevinesvillage.co.nz/

                ทานกันเสร็จ เดินดูร้านนิดหน่อย หนูขิงไม่อยากไปไร่ไวน์แล้ว เราเลยมุ่งตรงไปPictonกันเลยค่ะขับเรื่อยๆแค่สามสิบนาทีก็มาถึงแล้วค่ะ ระหว่างที่พ่อขับ แม่หาข้อมูลของPicton จาก webนี้ค่ะ 
ที่นี่มีAquariumเล็กๆ แบบชาวบ้านๆอยู่ด้วย เลยให้หนูขิงลงไปดู เดินแป๊ปเดียวก็ทั่ว กลับออกมาบอกว่าเค้าจัดแสดงไม่ค่อยดี แถมหาม้าน้ำไม่เจอด้วย เลยเซ็งนิดหน่อย  แม่เลยชวนไปดูเรือสินค้าโบราณกัน ตอนแรกก็บ่นๆว่าคงน่าเบื่อ แต่พอแม่คะยั้นคะยอมากๆ เลยยอม เราเลยเดินไปซื้อตั๋วกันเพื่อจะเข้าไปชม Edwin Fox Maritime Museum ข้อมูลเพิ่มเติมดูที่นี่เลยค่ะhttp://www.edwinfoxsociety.com/  เรือลำนี้ชื่อ The Edwin Fox เค้าเป็นthe world’s oldest merchant ship in existance today!เลยนะคะ museum เล็กๆแต่ทำดีมาก มีส่วนจัดแสดงของใช้ เครื่องมือต่างๆ และประวัติที่แสนจะน่าทึ่ง (ตามความเห็นของหนูขิง) ส่วนที่เป็นโรงเก็บเรือที่มีเรือ Edwin Foxลำจริงๆแสดงอยู่ เราใช้เวลาอยู่ที่นี่จนเกือบหกโมง หนูขิงสนุกมากที่ได้เดินดูข้างในเรือโบราณ ที่ยังเหลือร่องรอยของการใช้งานในอดีตให้เราได้เรียนรู้
ภายในท้องเรือ

หางเสือ
วางไว้บนตอไม้

ด้านบนของเรือ

           ออกมาจากดูเรือ ก็มาเดินเล่นริมน้ำอีกหน่อย จนเกือบทุ่ม แม่เลยชวนพ่อไปขับรถหาที่พักกันคืนนี้ค่ะ ขับยังไม่ถึงไหน ก็เจอป้าย Picton Campervan Park  http://pictonholidaypark.co.nz/ ไม่ต้องคิดมาก ขับตามป้ายแล้วถามเค้าเลยว่ามีPower Siteว่าไหม โชคดีจริงๆที่มีว่าง ที่นี่เค้าเป็นสมาชิกของเครือ Kiwi Holiday Parks ค่ะ ถ้าเป็นสมาชิกมีส่วนลดนะคะ http://www.kiwiholidayparks.com/  อันนี้เรามีmember cardแล้วจากtripปีที่แล้วนะคะ เลยได้ส่วนลด10%ด้วยค่ะ ที่ Picton Campervan Park  สะอาดสะอ้านดีค่ะ ทีหม้อหุงข้าวไฟฟ้าให้ยืมด้วย วันนี้ทำอาหารง่ายๆ ข้าวไข่เจียวกุ้ง กับ ผัดผักรวม เพราะคืนนี้พ่อกับแม่ต้องซักผ้าด้วยเลยไม่อยากนอนดึก เราไม่ขนเสื้อผ้ามาเยอะนะคะ เพราะแทบทุกHoliday parksมีเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญให้ใช้ค่ะ
บรรยากาศท่าเรือ


                พ่อกับแม่สมัครสมาชิก ของHoliday Parks เจ้าใหญ่ๆ ไว้ทุกเจ้าเลยค่ะ แต่ไม่ต้องทำแบบนี้ก็ได้นะคะ ถ้าวางแผนดีๆ รู้เส้นทาง จองล่วงหน้า สมัครแค่เจ้าเดียวก็พอค่ะ เพราะค่าสมัครก็แพงอยู่  ครอบครัวเราเที่ยวแบบไม่ค่อยวางแผนล่วงหน้า ค่ำไหนนอนนั่น  ขับไปเรื่อยๆ ไม่ชอบเร่งรีบน่ะค่ะ ขอให้มีโทรศัพท์ กับ Internet เอาไว้หาข้อมูลก็พอแล้วค่ะ Holiday parks เจ้าใหญ่ๆมีสามเจ้าค่ะ
http://www.familyparks.com.au/  (เจ้านี้มีทั้งใน ออสเตรเลีย และ นิวซีแลนด์เลยนะคะ)

ถ้าอยากปรึกษาเรื่องข้อมูลท่องเที่ยว นิวซีแลนด์ ขับรถบ้าน ติดต่อมาเลยนะคะ หรืออยากยืมหนังสือ หรือ แผ่นพับ travel guideก็ยืมได้นะคะ 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น