มาเที่ยวหนสองเราลองเปลี่ยนมาใช้ สายการบิน Emitates ค่ะ วันนี้เครื่องออก 1955น. แต่เครื่องดีเลย์นิดหน่อยค่ะ ภายในส่วนผู้โดยสารชั้นประหยัดทันสมัยมากและค่อนข้างสะอาดค่ะ มีหนังให้ดูเป็นร้อยๆเรื่องเลยค่ะ เกมก็มีเล่น เสียอย่างเดียว อาหารไม่ค่อยอร่อย หนูขิงตั้งใจจะดูหนังอย่างเดียวแต่ดูไปแค่ชั่วโมงกว่าๆก็หลับซะแล้ว หลังจากใช้เวลาประมาณ9ชั่วโมงเราก็มาถึงที่ท่าอากาศยานKingsford Smithที่Sydney เราต้องแวะพักที่นี่แป็ปนึง โดยผู้โดยสารทุกคนต้องลงจากเครื่องไปผ่านsecurity check และเข้ามารอที่ประตูขึ้นเครื่องอีกครั้ง ตอนรอx-rayของ ควรจะเอาของเหลวทุกชนิดใส่ถุงซิปล็อคไว้ ถ้าไม่มีก็ขอเจ้าหน้าที่ได้นะคะ และเอาออกมาวางให้เจ้าหน้าที่เห็นเลยนะคะ คอมพิวเตอร์ต้องเอาออกจากกระเป๋า พวก ipad กับ tablet ด้วยนะคะ พอผ่าน security checkแล้วเราก็มาเดินเล่นฆ่าเวลาก่อนขึ้นเครื่องได้ เราจะใช้เวลาในการเดินทางจาก อีกเกือบสามชั่วโมง อย่าลืมกรอกฟอร์ม Passenger arrival Card ให้เรียบร้อยก่อนลงจากเครื่องนะคะ
พอเรามาถึงที่Christchurch
International Airport ก็เกือบสี่โมงเย็นแล้วค่ะ
เพราะตอนที่เรามายังเป็นช่วงที่เค้าเรียกว่า Daylight Saving Timeอยู่นะคะ
เราสามคนพ่อแม่ลูกออกมาจากเครื่องปุ๊ปก็ต้องรีบเดินเร็วๆ
จะได้คิวที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองจะได้ไม่ยาวมากค่ะ
แต่ที่นิวซีแลนด์เค้าจัดคิวดีรอไม่นาน แป็ปเดียวก็ผ่านแล้วค่ะ เสร็จแล้วก็ไปเอากระเป๋า
หลังจากได้กระเป๋าทีนี้ก็คิวยาวมากๆ เพราะทุกคนต้องผ่านการตรวจ custom และ
Biosecurity บนเครื่องบินเค้าฉายวิดีโอ “Declare or
Dispose” อธิบายว่าอะไรเอาเข้ามาในประเทศเค้าได้บ้าง คราวนี้เรารู้แล้วเลยทำความสะอาดรองเท้าhiking
อย่างดี เราโชคดีมากเพราะตอนที่อยู่ในแถวรอตรวจ
เจ้าหน้าที่ถามว่านำอะไรที่เป็นอาหารสดหรือแห้งเข้ามาในประเทศเค้าไหม
เราก็เลยบอกว่า เรามาที่นี่ครั้งที่สองแล้ว ไม่ได้นำอะไรมา
เพราะส่วนใหญ่เราสามารถหาซื้อได้ในนิวซีแลนด์ (อ้อ
คำถามก็จะเป็นเหมือนใน arrival card นะคะ อย่าไปโกหกนะคะ ถ้าจะเอาพวกมาม่า
หรือ น้ำพริกไป ก็เขียนอธิบายติดเอาไว้ที่ห่อด้วย) เจ้าหน้าที่เลยให้เราไปช่องเขีว
x-rayกระเป๋าแล้วผ่านเลย มีน้องคนไทยกลุ่มนึงนำอาหารมาเยอะ
เลยต้องเปิดกระเป๋าให้เค้าตรวจ แต่ก็ผ่านหมดนะคะ
เพียงแต่เสียเวลาตรวจกับจัดของนิดหน่อย
พอผ่านออกมาแล้ว จะเห็น isite ไปถามข้อมูลต่างๆได้เลย
แม่ไปหยิบbrochure และ พาหนูขิงไปรอขึ้นรถไปโรงแรม ส่วนพ่อไปซื้อซิมโทรศัพท์ แต่ถ้าอันของปีที่แล้วหายไปไหนก็ไม่รู้
แต่เราเอาโทรศัพท์ที่ซื้อปีที่แล้วมาด้วย ถ้ายืนหันหลังให้isite จะเห็นบูธของvodofoneอยู่
ไปซื้อได้เลยค่ะ
รถshuttle bus
เราจองมาก่อนแล้วนะคะ เราใช้ยี่ห้อ Super shuttle คนแรก24NZD
คนต่อไปก็คนละ 5 NZDค่ะ เราสามคนพ่อแม่ลูกรวมแล้ว 34NZD หาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
www.supershuttle.co.nz
ใช้ประตูด้านซ้ายใกล้ๆกับvodofone
ออกไปรอรถได้เลย จะมีคนต่อแถวยืนรออยู่แล้วค่ะ
ใช้เวลาแค่สิบห้านาทีก็มาถึงโรงแรม Kauri
Motel on Riccarton www.kaurimotel.com เป็นโรงแรมเล็กแต่สะดวกมากสำหรับเรา
เพราะมี Riccarton Mall อยู่ตรงข้ามเลยค่ะ
นอกจากนั้นก็ยังมี PAK’nSAVE อยู่ใกล้ๆด้วยนะคะ
(แถวถนนนี้มีร้านอาหาร เยอะนะคะ ลองเดินดู
เพราะอยู่ใกล้มหาวิทยาลัย University of Canterbury)
พอเช็คอิน เจ้าหน้าที่ก็ให้นมมาหนึ่งกล่อง
ที่นี่ดีนะคะให้ผลไม้และมัฟฟินด้วยแถมมีชากาแฟและโกโก้เอาไว้ชงด้วย แถมยังสะอาดมาก
อาบน้ำเปลี่ยนชุดแล้ว ก็พากันเดินไปหาอะไรทานกัน
ก่อนออกไปข้างนอกแวะขอให้เจ้าหน้าที่จองรถให้หน่อยเพื่อที่จะไปเอารถบ้าน นัดเวลาเรียบร้อย เราก็เดินข้ามถนนไปก็ถึงห้างแล้วค่ะ
หนูขิงเป็นห่วงกลัวไม่ได้ไปซื้อของเล่น เลยขอกินอาหารจีนที่food
court สงสัยจะหิวมากเลยทานแป็ปเดียวหมดเกลี้ยง
หลังจากนั้นก็ไปหาซื้อของเล่นให้หนูขิง เพราะปีที่แล้วมาที่นี่หนูขิงได้ Sea
Monkeyไปเลี้ยง แต่มันตายหมด ปีนี้เลยอยากได้อีก
ลองดูข้อมูลที่นี่นะคะ www.seamonkeys.co.nz
หลังจากนั้นก็ไปซื้อของใช้สำหรับทริปนี้
ส่วนอาหารเอาไว้ซื้อพรุ่งนี้ แม่ชอบของที่ New Worldมากกว่าที่อื่น
วันนี้เป็นวันพฤหัส ร้านค้าในmallส่วนใหญ่ปิดสามทุ่มค่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น